วันเสาร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ขนมดอกไม้

อุปกรณ์

* แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง
* แป้งเท้ายายม่อม 1 ช้อนโต๊ะ
* น้ำลอยดอกมะลิ 2 1/2 ถ้วยตวง
* น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วยตวง
* สีผสมอาหาร (ตามความชอบ)

                                           วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน
1. ผสมแป้งข้าวเจ้าและแป้งเท้ายายม่อม จากนั้นนำไปร่อนและพักทิ้งไว้

2. นำน้ำลอยดอกมะลิและน้ำตาลทรายไปตั้งในหม้อบนไฟอ่อนๆ คนจนผสมกันทั่วและน้ำตาลละลายดีจึงปิดไฟ ทิ้งไว้ให้เย็น
3. นำน้ำเชื่อมและแป้งผสมกันทีละน้อย คนจนส่วนผสมเข้ากันดี จึงใส่สีผสมอาหารลงไป ควรผสมให้เป็นสีโทนอ่อนจะน่าร้บประทานมากกว่าสีเข้ม 
4. นำแบบพิมพ์ที่ต้องการไปนึ่งให้ร้อนประมาณ 10 นาที จากนั้นจึงหยอดน้ำแป้งลงในแบบพิมพ์ที่ต้องการ แล้วนำไปนึ่งประมาณ 15
นาทีจนสุก ทิ้งไว้ให้เย็น แคะออกจากแบบ จัดใส่จานเสริฟ

ขนมเบื้องญวน



ส่วนผสมแป้ง
  • แป้งข้าวเจ้า 300 กรัม
  • แป้งถั่วเขียว 75 กรัม
  • ไข่เป็ด 1 ฟอง
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • น้ำตาลปึก 2 ช้อนชา
  • หัวกะทิ 1½ ถ้วย
  • น้ำปูนใส 1½ ถ้วย
  • ผงขมิ้น 1 ช้อนชา
ส่วนผสมใส้
  • หัวไชโป๊วสับละเอียด 100 กรัม
  • เต้าหู้แข็งหั่นสี่เหลี่ยมเล็กๆ 1 แผ่น
  • ถั่วงอกเด็ดหาง 300 กรัม
  • ถั่วลิสงคั่วป่น ½ ถ้วย
  • ผักชีหั่นละเอียด 1-2 ต้น
ส่วนผสมหน้ากุ้ง
  • กุ้งสด 200 กรัม
  • มะพร้าวขูดขาว 1 ถ้วย
  • กะทิ ½ ถ้วย
  • น้ำตาลทราย ¼ ถ้วย
  • เกลือป่น 2 ช้อนขา
  • ใบมะกรูดหั่นฝอย 5-6 ใบ
  • รากผักชีหั่น 1 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
ส่วนผสมอาจาด
  • น้ำส้มสายชู 1 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
  • เกลือป่น 2 ช้อนชา
  • แตงกวาซอยบางๆ 8-10 ผล
  • หอมแดงซอย 8-10 หัว
  • พริกชี้ฟ้าหั่นแว่น 2-3 เม็ด
  • ผักชีเด็ดเป็นใบๆ 2-3 ต้น
  • น้ำสะอาด 2 ถ้วย

วิธีทำแป้ง
  1. ผสมแป้งข้าวเจ้าและแป้งถั่วเขียวเข้าด้วยกัน ใส่ไข่นวดให้เข้ากัน
  2. ใส่เกลือและน้ำตาลปึก ค่อยๆ ใส่หัวกระทิพร้อมกับนวดแป้งให้เข้ากันจนเป็นก้อน ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
  3. ใส่กะทิที่เหลือทั้งหมด น้ำปูนใสและขมิ้นผง คนให้เข้ากัน
วิธีทำหน้ากุ้ง
  1. ปอกเปลือกกุ้งเอาแต่เนื้อมาสับให้ละเอียด นำมาคลุกกับมะพร้าวขูดขาวให้เข้ากัน ถ้าต้องการให้สีสวยให้เติมสีผสมอาหารสีส้ม 1-2 หยดแล้วคลุกให้ทั่ว
  2. โขลก รากผักชี กระเทียมและพริกไทย เข้าด้วยกันให้ละเอียด
  3. เทกะทิ 1/3 ถ้วยใส่ในกระทะตั้งไฟอ่อนถึงปานกลาง ใส่รากผักชีกระเทียมพริกไทยที่โขลกไว้ลงลงผัดให้หอม ใส่กุ้งกับมะพร้าวที่คลุกไว้ลงผัดให้เข้ากัน ถ้าแห้งให้เติมกะทิที่เหลือ ปรุงรสด้วยน้ำตาลและเกลือชิมรสตามชอบ ใส่ใบมะกรูดหั่นฝอย
วิธีทำอาจาด
  1. ต้มน้ำให้เดือดแล้วหรี่ไฟอ่อน ผสมน้ำตาลทราย เกลือป่น น้ำส้มสายชู คนให้ละลายและเข้ากันกันดี ชิมน้ำให้รสชาติออกเปรี้ยวหวานหรือตามชอบ ยกลง ทิ้งไว้ให้เย็น
  2. เวลาจะรับประทานให้ใส่หอมแดง แตงกวา พริกชี้ฟ้า ลงในถ้วยแล้วราดด้วยน้ำปรุงรส แต่งหน้าด้วยผักชี
วิธีทำ
  1. ตั้งกระทะไฟอ่อนๆ ทาน้ำมันบางๆ ให้ทั่วกระทะ พอกระทะร้อน ตักแป้งใส่กระทะ กรอแป้งเร็วๆ ให้ทั่วกระทะ ให้แป้งติดกระทะเป็นแผ่นกลมบางๆ พอแป้งอยู่ตัว ตักน้ำมันหยอดข้างกระทะให้รอบแผ่นแป้ง เอียงกระทะไปมารอบๆ เพื่อให้แป้งสุกทั่ว
  2. ใส่ถั่วงอก เต้าหู้ ไชโป๊ว ถั่วลิสง หน้ากุ้ง ผักชี แซะริมแป้งข้างหนึ่งแล้วพับให้เป็นรูปครึ่งวงกลม ตักใส่จานเสิร์ฟคู่กับอาจาด

ขนมสาคูนมสด






ส่วนผสม
สาคูเม็ดเล็ก ½ ถ้วยตวง
น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ
แคนตาลูป ½ ผล

วิธีทำ
1. ตั้งน้ำจนเดือดด้วยไฟแรง ใส่สาคูลงไป คนเร็วๆ ให้สาคูกระจายตัว คนไปเรื่อยๆ เม็ดสาคูจะ ค่อยๆ พอง
2. ถ้าเห็นว่าน้ำแห้ง อาจจะเติมลงไปทีละนิด คนเรื่อยๆ จนเม็ดสาคูพอง จุดขาวๆ ในเม็ดสาคูจะเล็กลงไปเรื่อยๆ แต่อย่าต้มนานไปจนจุดขาวหายไปหมด เพราะเวลาเย็นแล้วสาคูจะเละเกินไป หรือถ้ามี จุดขาวเหลือมากเกินไป ก็จะเป็นไตแข็งๆ ด้านใน
3. จากนั้นเติมน้ำตาลทราย คนต่อจนน้ำตาลทรายละลายหมด ให้มีน้ำปริ่มสาคูนิดหน่อย อย่าให้แห้ง เกินไป ปิดเตาพักไว้ให้สาคูเย็น
4. เมื่อสาคูเย็นดีแล้ว เติมนมสดลงไป ชิมดูถ้าชอบหวานอาจจะทำน้ำเชื่อมใส่เพิ่มไปได้
5. คว้านแคนตาลูปให้เป็นลูกกลมๆ หรือจะหั่น เป็นชิ้นก็ได้ ใส่ในสาคูนมสด หรือจะเปลี่ยนเป็นผลไม้อย่างอื่น เช่น เนื้อมะพร้าว แอปเปิ้ล

ขนมด้วง


วัตถุดิบและสัดส่วน:
1. แป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ
2. แป้งข้าวจ้าว 1 ถ้วย
3. แป้งมันสำหรับทำแป้งนวล ½ ถ้วย
4. มะพร้าวทึนทึกขูดขาว 200 กรัม
5. น้ำตาลทราย ½ ถ้วย
6. งาขาวคั่ว ¼ ถ้วย
7. น้ำดอกมะลิ 2 ถ้วย
8. หัวกะทิ 1 ถ้วย
9. เกลือ 1 ช้อนชา
10. สีผสมอาหารตามชอบ (ใช้สีที่อ่อนๆหน่อยนะค่ะ)
ขั้นตอนการปรุง:
1. แป้งมันและแป้งข้าวจ้าวผสมเข้าด้วยกัน ค่อยๆเทน้ำดอกมะลิลงไป กวนจนแป้งเป็นก้อนร่อนจากกระทะทองเหลืองยกลง
2. นำแป้งมานวดมือ โดยผสมสีผสมอาหารลงไปตามชอบ นวดจนแป้งนุ่มและไม่ติดมือ คลึงแป้งเป็นตัวด้วงปลายแหลมด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่งมน ยาวประมาณ 4 เซนติเมตร (กะๆเอาค่ะ)
3. นำไปนึ่งในซึ้งโดยปูรองด้วยผ้าขาวบาง นึ่งจนสุก นำขนมที่นึ่งสุกแล้วจัดใส่จาน พรมด้วยหัวกะทิโรยด้วยมะพร้าวขูด งาข้าวและน้ำตาลทราย

วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ขนมทองเอก



ส่วนผสม
ไข่ไก่                    ๖        ฟอง
น้ำตาลทราย         ๑       ถ้วยตวง
ทองคำเปลว         ๒         แผ่น
ผลอัลมอนด์          ๑/๒   ถ้วยตวง
กะทิ                    ๑         ถ้วยตวง
วิธีทำ
      ๑. คั่วผลอัลมอนด์ให้กรอบ บดให้ละเอียดเป็นผงแป้ง แล้วร่อนหลายๆครั้ง
      ๒. ใส่ไข่แดง น้ำตาลทราย ลงในกะทิ คนให้เข้ากัน จนน้ำตาลทรายละลาย
      ๓. ร่อนผลอัลมอนด์ลงในส่วยผสมข้อ ๑ ทีละน้อย ตะล่อมให้เข้ากัน
      ๔. นำไปตั้งไฟอ่อนๆ กวนจนปั้นได้ ใสพิมพ์ทิ้งให้เย็น เคาะออก ติดทองคำเปลว นำไปอบควัน       เทียน

                                                                            

ขนมอาลัว



เครื่องปรุง + ส่วนผสม
* แป้งสาลี 1 1/2 ถ้วยต
* แป้งถั่วเขียว 1/2 ถ้วยตวง 
* แป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ
* น้ำลอยดอกมะลิ 6 ถ้วยตวง
* มะพร้าวขูด 350 กรัม
* น้ำตาลทราย 5 1/2 ถ้วยตวง
* สีผสมอาหาร (บางสีอาจใช้ดอกไม้หรือใบไม้ได้ เช่น สีเขียว - ใบเตย, สีม่วง - ดอกอัญชัญ)
วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน
1. นำมะพร้าวขูดไปผสมกับน้ำลอยดอกมะลิ จากนั้นนำไปคั้นจนได้น้ำกระทิ
2. นำแป้งสาลี, แป้งถั่วเขียว และแป้งมันร่อนผสมกัน
3. นำน้ำกะทิผสมกับแป้งและน้ำตาล คนจนละลายเข้ากันดี จึงนำไปกรองด้วยผ้าขาวบาง เสร็จแล้วนำไปตั้งบนไฟร้อนปานกลาง ใส่สีผสมอาหารลงไป และกวนเรื่อยจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี (แป้งจะมีลักษณะเหนียวใสๆ ถ้านำไปหยอดในน้ำ แล้วแป้งยังคงรูปอยู่ก็เป็นอันใช้ได้)
4. นำน้ำแป้งที่ได้ตักใส่ถุงบีบ แล้วจึงบีบลงในถาดที่ทาเนยขาวบาง ๆ แล้วจึงนำไปตากแดดสัก 2 - 3 แดด เสร็จแล้วนำไปอบควันเทียน
5. จัดใส่จานเสริฟได้ทันที หรือใส่กระปุกมิดชิดเก็บไว้รับประทานภายหลังได้

ขนมครกชาววัง

สูตร ๑ 
แป้งขนมครก
เครื่องประกอบด้วย:- 
แป้งข้าวเจ้า ๑/๒ ถ้วยตวง 
น้ำกะทิ ๑/๒ ถ้วยตวง 
น้ำสะอาด ๑/๒ ถ้วยตวง 
น้ำปูนใส ๓ ช้อนโต๊ะ 
น้ำตาล ๑ ช้อนชา 
เกลือป่น ๑/๘ ช้อนชา 
(ส่วนผสมนี้ทำได้ประมาณ ๓๖ ชิ้น หรือมากน้อยกว่านี้แล้วแต่ขนาดของพิมพ์และการตวงแป้งใส่พิมพ์)
 หมายเหตุ
๑. ใช้นมสดรสจืดแทนกะทิก็ได้ เวลากะทิที่บ้านหมดเราก็ใช้นมสดแทน กะทิ บางทีก็ใช้แทนทั้งกะทิทั้งน้ำเลย ทำให้ได้โปรตีนและแคลเซี่ยมด้วย
๒. ใครไม่มีน้ำปูนใส ก็เปลี่ยนเป็นกะทิ หรือ น้ำสะอาดแทน แต่แป้งขนมครกจะไม่กรอบเท่ากับการใส่น้ำปูนใส
หน้าขนมครก
เครื่องประกอบด้วย:-
หัวกะทิ ๑/๒ ถ้วยตวง
หางกะทิ ๑/๔ ถ้วย (ไม่ใช้ก็ได้)
น้ำตาลทราย ๒ ๑/๒ -  ๓ ช้อนโต๊ะ หรือตามชอบ
เกลือป่น ๑/๘ - ๑/๔ ช้อนชา หรือตามชอบ
แป้งข้าวเจ้า ๑/๒ - ๑ ช้อนชา (จะใช้หรือไม่ก็ได้ หากหัวกะทิของใครไม่ข้นพอก็ใช้แป้งข้าวเจ้าช่วย)
ต้นหอมซอย ฟักทองซอย เผือกซอย ข้าวโพดต้ม หรืออื่นๆตามชอบ ไว้โรยหน้า
(ใครไม่มีหัวกะทิ จะใช้นมสด ๑/๓ ถ้วยตวง ผสมแป้งข้าวโพด ๑ ช้อนชา คนให้แป้งละลายแล้วตั้งไฟอ่อนๆคนจนแป้งข้น หากมีกลิ่นมะพร้าวก็หยดกลิ่นมะพร้าวใส่ลงไปด้วย ก็จะได้หัวกะทิเทียม ใช้แทนกันได้ดีกว่าไม่มีอะไรเลย)
วิธีทำ:-
ตวงส่วนผสมแป้งขนมครกทุกอย่างใส่ชาม 
คนให้เข้ากันแป้งละลายดีไม่จับเป็นเม็ดใช้ได้
(ถ้าไม่รีบร้อนก็พักแป้งไว้สักครู่เพื่อให้แป้งอิ่มตัว จะทำให้ได้เนื้อขนมครกนุ่มขึ้น หากไม่พักแป้งไว้เวลาหยอดใส่เบ้าบางทีแป้งจะแตก หรือใครขยันก็นวดแป้งกับกะทิให้นุ่มก่อนค่อยใส่นำ้ลงไปคลายตัวแป้ง การนวดจะช่วยให้แป้งเหนียวนุ่มขึ้น ส่วนมากเราจะทำแป้งไว้ตอนกลางคืน แล้วมาทำเป็นขนมครกทานตอนเช้า นานๆถึงจะทำแบบเร่งด่วนสักที )